บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Biz Defined

สิทธิประโยชน์ และจุดเด่น
- รับดอกเบี้ยที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป
- คล่องตัว สามารถเบิกถอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อเดือน
เงื่อนไขบริการ
- สำหรับผู้ฝากที่มีเงินฝากประเภทออมทรัพย์กับธนาคารเฉลี่ยมากกว่า 50,000,000 บาท (นับรวมทุกบัญชี) ติดต่อกันเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
- เปิดให้บริการสำหรับผู้ฝากประเภท นิติบุคคลทั่วไป, กองทุน และบริษัทประกัน
- เปิดบัญชีขั้นต่ำ 50,000,000 บาท ผู้ฝาก 1 รายสามารถเปิดบัญชีได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น
- เปิดบัญชีด้วยตนเองที่ธนาคารไทยเครดิตทุกสาขา
การจ่ายดอกเบี้ย
- ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากปีละ 2 ครั้ง ณ วันที่ 25 ของเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคมของทุกปี ทั้งนี้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับเป็นไปตามยอดเงินฝากคงเหลือ ณ สิ้นวัน โดยคำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันที่ 25 ของเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคม และผู้ฝากได้รับดอกเบี้ยในวันถัดไป หลังหักภาษี ณ ที่จ่าย (ถ้ามี)
- อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ Biz Defined เป็นไปตามประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร
ค่าธรรมเนียม
- ค่าธรรมเนียมรักษาบัญชี 50 บาทต่อเดือน สำหรับบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่มีรายการเคลื่อนไหว 1 ปีขึ้นไป (ใช้เกณฑ์ 1 ปี มี 365 วัน) และมียอดเงินคงเหลือในบัญชีต่ำกว่า 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมการปิดบัญชี สำหรับบัญชีออมทรัพย์ที่เปิดและปิดบัญชีภายใน 1 เดือน คิด 100 บาทต่อบัญชี
เอกสารประกอบการเปิดบัญชี
นิติบุคคล
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับบริษัท
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
- รายงานการประชุมคณะกรรมการ
- สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี
- สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25% ขึ้นไป ตราประทับของนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนไว้ที่กระทรวงพาณิชย์
- สำเนาใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- สำเนาแบบ บอจ. 3 หรือ บอจ. 4 (ถ้ามี)
หมายเหตุ :
1. การปิดบัญชี สามารถปิดบัญชีได้เฉพาะสาขาที่เปิดบัญชี และต้องทำการปิดบัญชีด้วยตนเองเท่านั้น
2. ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆ ให้เป็นไปตามประกาศของธนาคาร
3. อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก / อัตราค่าธรรมเนียมและบริการอื่นๆ เป็นไปตามประกาศและระเบียบที่ธนาคารกำหนด
4. เงินฝากนี้ได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกฏหมาย
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
คำถามที่พบบ่อย
ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามประเภทผู้ฝาก ในอัตราตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
สามารถแจ้งความประสงค์ขอข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยเงินฝาก หรือหนังสือรับรองดอกเบี้ยหัก ณ ที่จ่าย ได้ที่สาขาเจ้าของบัญชีด้วยตนเอง (ไม่สามารถมอบอำนาจได้)
- แจ้งล่วงหน้า 1 วัน ก่อนเวลา 15.30 น.
- สาขาเจ้าของบัญชี ไม่จำกัดวงเงิน
- กรณีต่างสาขา สูงสุดต่อบัญชี / ต่อวัน : เงินสดไม่เกิน 1,000,000 บาท, เงินโอน ไม่เกิน 2,000,000 บาท
การมอบฉันทะให้บุคคลอื่นมาถอนเงิน สามารถดำเนินการได้เฉพาะสาขาเจ้าของบัญชีเท่านั้น
การแจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล ต้องดำเนินการด้วยตนเอง ไม่สามารถมอบฉันทะได้
- การขอเปลี่ยนแปลงชื่อ-นามสกุล แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ที่สาขาเจ้าของบัญชีด้วยตนเอง
เอกสารที่ต้องใช้ :
- บัตรประชาชน
- หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
- สมุดบัญชีเงินฝาก
- กรณีอื่น ๆ เช่น เบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่, e-mail address แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ได้ทุกสาขาด้วยตนเอง
เอกสารที่ต้องใช้ :
- บัตรประชาชน
- สมุดบัญชีเงินฝาก
- กรณีบัญชีเงินฝากไม่เคลื่อนไหวติดต่อกันตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป (ใช้หลักเกณฑ์ 1 ปี มี 365 วัน) บัญชีจะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นบัญชีไม่เคลื่อนไหว (Dormant) ทั้งนี้ ธนาคารจะส่งจดหมายแจ้งบัญชีไม่เคลื่อนไหวไปตามที่อยู่ที่ได้ให้ไว้กับธนาคาร เพื่อแจ้งให้ท่านติดต่อธนาคารเพื่อทำการเดินบัญชี
- เมื่อบัญชีมีสถานะเป็นบัญชีไม่เคลื่อนไหว (Dormant) และมียอดเงินคงเหลือในบัญชีต่ำกว่า 500 บาท ธนาคารจะคิดค่ารักษาบัญชี 50 บาทต่อเดือน และหากหักเงินจนทำให้ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเท่ากับ 0 บาท ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการปิดบัญชีอัตโนมัติ
- สามารถแจ้งความประสงค์ขอเคลื่อนไหวบัญชีได้ทุกสาขา
- กรณีมอบฉันทะ สามารถแจ้งความประสงค์ขอเคลื่อนไหวบัญชี ได้เฉพาะสาขาเจ้าของบัญชีเท่านั้น
เอกสารประกอบ
- บัตรประชาชน
- สมุดบัญชีเงินฝาก
เจ้าของบัญชี ติดต่อที่สาขาเจ้าของบัญชีด้วยตนเอง (ไม่สามารถมอบฉันทะได้)
เอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประประชาชน
- ใบแจ้งความ (สามารถใช้ใบแจ้งความ online ได้)
ช่องทางการติดต่อ


