ของอร่อย ไม่ต้องพูดเยอะ กิจกรรม Success story คั่วไก่ไอ้เครา ณ ศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารไทยเครดิต สาขาบางเขน-วัชรพล ตลาดถนอมมิตร

ของอร่อย ไม่ต้องพูดเยอะ กิจกรรม Success story คั่วไก่ไอ้เครา ณ ศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารไทยเครดิต สาขาบางเขน-วัชรพล ตลาดถนอมมิตร ลูกค้าประทับใจ focus group ได้เคล็ดลับปรับกลยุทธ์ต่อยอดธุรกิจเพียบ

ธนาคารไทยเครดิตฯ ดึงตัวเชฟโอ๊ต อดีตเชฟโรงแรมระดับโลก ปัจจุบัน เป็นเจ้าของร้านคั่วไก่ไอ้เครา และเป็นที่ปรึกษาการทำธุรกิจอาหารหรือ Food designer ให้แก่ร้านอาหารรายย่อยหลายแห่ง มาแชร์แรงบันดาลใจและให้คำปรึกษาการทำธุรกิจและการตลาดของร้านอาหารอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

ผู้ชายร่างท้วม หนวดเคราเฟิ้ม สักเต็มตัว หากมองจากภายนอก คงนึกว่าเป็นนักร้องวงร็อค ไม่มีใครเดาได้เลยว่าบุคคลคนนี้คือเชฟ ผู้มีฝีตะหลิวระดับโลกที่ไปประจำอยู่โรงแรมต่างประเทศมาแล้วนับไม่ถ้วน เชฟโอ๊ต เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่มีแรงบันดาลใจที่ไม่ธรรมดา ชีวิตของเชฟเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน จากวัยเด็กที่ไม่ได้มาจากครอบครัาวที่มีกินมีใช้ ตีรันฟันแทง เกเรเอาเรื่อง เริ่มหาเลี้ยงตัวเองและหารายได้เสริมจากงานพาร์ทไทม์ล้างจานในโรงแรมขณะศึกษาอยู่ชั้นมัธยม แต่ด้วยความไฝ่รู้และช่างสงสัย เดินผ่านห้องครัวเบเกอรี่ในโรงเเรมแล้วได้กลิ่นหอม จึงอยากรู้ว่าเขาทำอะไรกัน หลังจากนั้น ทุกวัน เชฟโอ๊ตซึ่งขณะนั้นเป็นเด็กล้างจานพาร์ทไทม์อยู่ จะรีบล้างจานให้เสร็จ และอาสาไปช่วยเชฟที่เบเกอรี่ของโรงแรม ด้วยความขยันและอดทน จึงได้กลายเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ช่วยงานในเบเกอรี่ในที่สุด และนั่นเอง เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นเชฟโรงแรมระดับห้าดาว

แล้วอะไรที่ทำให้เชฟโอ๊ตทิ้งชีวิตการเป็นเชฟอยู่ต่างประเทศ เงินเดือนร่วมแสนกลับมาเปิดร้านที่เมืองไทย

ง่ายๆ เลย ผมอยากมีร้านของตัวเอง ถ้าเราเป็นลูกจ้าง เราคงไม่มีวันได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง การทิ้งเงินเดือนเชฟเป็นแสนได้ เพราะเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องหลัก ผมทำธุรกิจของตัวเอง เพื่อเงินด้วยก็ใช่ แต่ไม่ได้ต้องการความหรูหรา ผมทำเพื่อให้สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ มีเงินพอเหลือเก็บ ไม่ลำบาก มีให้แม่ ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทุกวันนี้ ยังแต่งตัวเหมือนเดิม กินเหมือนเดิม ทำธุรกิจแบบพอตัว

ทำไมถึงเป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่

คุณรู้ไหมครับ ก๋วยเตี๊ยวคั่วไก่มีอายุมากว่า 100 ปี คนคิดว่าเป็น ผัดไท แต่จริงๆ แล้วก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เป็นสิ่งที่คนไทยกินกันมาช้านานแล้ว ร้านผมมีคั่วไก่ 13 เมนู คั่วหมูกรอบจานเด็ดก็มี ซอสที่ผมทำเป็นสูตรพิเศษ กระทะที่ใช้ก็ต้องเป็นกระทะจีน เผาก่อนคั่ว จะยิ่งทำให้หอม

แรกเริ่มจะมีร้านต้องทำอย่างไร

ผมทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมทำเองคนเดียวหมด ไม่มีลูกจ้าง ถามว่าเหนื่อยมั้ย มาก แต่การทำทุกอย่างด้วยตัวเราเอง ทำให้เรารู้ทุกอย่าง รู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง ผมศึกษาคู่แข่ง ผมสำรวจร้านใกล้เคียงหมด ขายอะไร เท่าไหร่ ผมถึงกระทั่งนั่งดูและนับคนเดินผ่านหน้าร้านอยู่ 2 เดือน ศึกษาตำแหน่งร้านและที่ตั้ง และก่อนทำธุรกิจ เราต้องประเมินตัวเองก่อน ว่าเรามีกำลังแค่ไหน มีแผนมั้ย เราไม่จ้างใคร เพราะต้องการคุมต้นทุน ผัดเอง ปรุงเอง ขายเอง เก็บกวาดร้านเอง ท่อตันต้องล้างท่อ ก็คนเดียวมันนี่แหละ จนสุดท้าย ผมคิดต้นทุนทุกอย่าง แต่ผมลืมคิดค่าจ้างตัวเอง พอคิด เท่ากับที่ทำมาคือ ศูนย์ กว่าผมจะมีลูกจ้างได้ ใช้เวลาเกือบ 2 ปี ธุรกิจอาหาร ต้องตัดของเสียออก ถึงจะเห็นกำไร เศษผัก ผมเอามาทำปุ๋ย น้ำหมักให้นักเรียน ชาวบ้านไปปลูกผักส่งร้านผม

ร้านคั่วไก่ ไอ้เครา ต่างจากร้านอื่นอย่างไร

ผมขายความจริง ผมสร้างเรื่องราว ผมสร้างวิถีชุมชน ร้านผมทุกวันนี้ รับซื้อผักจากรุ่นน้องที่โรงเรียนที่ผมเคยเรียน ผมให้เขาปลูกผักออร์แกนิกและผมรับซื้อมาใช้ที่ร้าน สร้างรายได้ให้น้องๆ ในโรงเรียน ผมติดต่อเกษตรกรโดยตรง

คั่วไก่ไอ้เคราเริ่มมีคนรู้จักได้อย่างไร

การตลาดสำคัญ คุณอย่าละเลยพลัง social ก่อนเปิดร้าน ผมเริ่มโฆษณาใน social ผมลง post และ tag เพื่อนใน Facebook หมด มีเพื่อน 5,000 คน ผมส่งหมดเลยนะ ไม่สนใจ โปรโมทร้านว่าเราจะเปิด ปรากฎเพื่อนเริ่มสนใจ เริ่มมีคนรอบข้างพูดถึงเรา “เอ๊ะ โอ๊ตมันทำอะไร มันจะเปิดร้านหรอ” ผมโพสต์เยอะ จนเฟสบุ๊กถามว่าจะโฆษณาหรือไม่ ก่อนเปิดร้าน 1 วัน ผมเปิด Page ร้านเลย มีคนตาม 10,000 คน

คนอยากมีธุรกิจหรือร้านอาหารของตัวเองต้องทำอย่างไร

คนทำธุรกิจต้องมีทักษะ ผมขายทักษะของผม ผมสั่งสมประสบการณ์การเป็นเชฟมา ได้อะไรมากมาย นำมาใช้ได้กับธุรกิจของผม ผมขายคั่วไก่ธรรมดา แต่วิธีนำเสนอของผมต้องแตกต่าง ทุกวันนี้ ผมเป็นที่ปรึกษาการทำธุรกิจอาหารด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการร้าน พนักงานในร้าน การหาวัตถุดิบ การตลาด และอื่นๆ ที่ช่วยให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จ

ลูกค้าของร้านคั่วไก่ ไอ้เคราคือใคร

ลูกค้าผมมีทุกระดับ แรกๆ ก็มีพนักงานประจำมากิน จนคนเริ่มติด ตอนนี้มีทั้งดารา พณะท่าน คนจน คนไม่มีเงิน ผมให้กินฟรีก็มี ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าสำหรับผม แต่ลูกค้าคือเพื่อนที่ผมอยากทำของอร่อยๆ ให้ทาน

การยกระดับอาหารจานเดียว ต้องทำอย่างไร

เราต้องยกระดับตัวเองก่อน แล้วไปยกระดับอาหาร ทำให้น่ากิน แต่คงราคาที่เดิม คนส่วนใหญ่อยากขึ้นราคา หากำไร แต่ราคาเราต้องไม่เอาเปรียบ ผมเน้น margin ทุกวันนี้ ผมขายได้กำไรเดือน 8 แสน ผมขายตัวตน ขายความสามารถ รอยสักบนตัวผมด้านซ้ายเป็นรูปอาหาร ปลาทู พิซซ่า ส่วนด้านขวา เป็นอุปกรณ์เครื่องครัว ผมชอบทำอาหาร ผมถึงสักเกี่ยวกับอาหาร มันคือตัวตนของผม

อยากฝากอะไรถึงพ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ประกอบการรายย่อยบ้าง

แนวทางการทำธุรกิจตอนนี้ ทุกคนมีเงินกู้ และมีแรงบันดาลใจ แต่คุณมีแค่นั้นไม่ได้ คุณต้องวิจัย ศึกษาคู่แข่ง ยึดความธรรมดาถึงอยู่ได้ มีวิธีการนำเสนอที่เรียบง่าย ในปีนี้ ผมว่ายังไม่ควรลงทุนอะไรเพิ่ม แต่ให้รักษาระดับไว้ก่อน ทำแบบพอตัว เลี้ยงตัวให้ได้

หลังจากการสัมภาษณ์ เชฟโอ๊ตได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าที่มาร่วมฟังเคล็ดลับและร่วมตอบคำถาม พร้อมให้คำปรึกษาฟรีแก่ผู้ประกอบการเพื่อนำไปประยุกต์ต่อยอดการทำธุรกิจอาหารให้ประสบความสำเร็จ