5 สิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้เราอยู่รอดในยุค COVID-19
สถานการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ในช่วงนี้ นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ใครหลายคน ก็ต่างเฝ้ารอให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วขึ้น เพื่อจะได้กลับมาทำงานเก็บเงินและใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านมาหลายเดือนแล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์จะกลับมาปกติได้ในเร็ววัน และสิ่งที่เราทุกคนต้องยอมรับ คือการปรับตัวให้สามารถอยู่รอดได้กับวิกฤติที่กำลังเผชิญอยู่ วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 5 สิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้เราอยู่รอดในยุคโควิด-19 มากฝากกัน....
1.จัดระเบียบการเงินอย่างจริงจัง
เราต้องเริ่มหันมาควบคุมรายจ่ายอย่างจริงจังมากขึ้น อาจจะมองว่าเป็นเรื่องยากในสถานการณ์ช่วงนี้ แต่ก็คงไม่ยากเกิน ที่เราจะทำได้ เพียงแค่เราพูดคุยและวางแผนการเงินร่วมกันภายในครอบครัว แยกแยะค่าใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็น และไม่จำเป็นให้ชัดเจน จากนั้นค่อยปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกมา เพื่อนำมาเป็นเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
2. มองหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้
อย่าหวังพึ่งรายได้แค่ทางเดียว ควรเริ่มมองหาอาชีพเสริม ที่จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มในช่วงวิกฤตินี้ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเอาตัวรอด ในยุคปัจจุบัน เช่น การเป็นพนักงาน Delivery เป็นติวเตอร์ออนไลน์ ขายของออนไลน์ หรือลองเปลี่ยนงานอดิเรกที่เราชื่นชอบมาทำให้เกิดรายได้ เช่น ทำอาหาร ทำขนม หรือทำงานฝีมือ ต่าง ๆ
3. ไม่สร้างหนี้เพิ่ม ไม่กู้นอกระบบ
สาเหตุที่เราเป็นหนี้กันส่วนใหญ่ ก็เพราะเราแบกรับภาระมากเกินกว่าที่จะสามารถแบกรับได้ บางคนทั้งผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ทั้งรูดบัตรเพื่อผ่อนค่าสินค้าล่วงหน้า โดยอาจลืมนึกถึงตอนที่ต้องชำระหนี้คืน นี่คือต้นตอของปัญหา ดังนั้นหากเราหยุดก่อหนี้ ไม่ว่าเราจะต้องลำบากแค่ไหน ให้เลิกกู้ เลิกยืม เลิกรูดบัตรเครดิต อย่างเด็ดขาด และอย่าไปพึ่งหนี้นอกระบบเด็ดขาด จริงอยู่ที่เราได้เงินสดมาง่าย ๆ สามารถโปะหนี้ได้ แต่มันคือเส้นทางที่จะพาเราไปสู่ความทุกข์ทั้งกายและใจ เพราะอาจโดนเอาเปรียบจากดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม ไหนจะวิธีการทวงหนี้ที่เสี่ยงกับชีวิตและทรัพย์สินของเราอีกด้วย
4.หยุดพฤติกรรมการใช้จ่ายกับอบายมุข
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายสำคัญที่สุดในช่วงนี้ โดยเฉพาะรายจ่ายที่ควรหยุด เช่น ค่าหวย ค่าเหล้า การพนันหรืออบายมุขต่าง ๆ เพราะถือเป็นบ่อเกิดแห่งความล้มเหลวทางการเงินของเรา พฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลให้เรามีชีวิตที่ยากลำบากลงไปกว่าเดิม เราต้องใช้ช่วงเวลานี้ในการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ต้องบังคับตัวเอง และหยุดการใช้จ่ายที่เกี่ยวกับอบายมุขอย่างเด็ดขาด เพื่อที่เราจะได้มีเงินเหลือเก็บออมมากยิ่งขึ้น
5. ใช้แอพพลิเคชั่นมาช่วยจัดการค่าใช้จ่าย
เราควรศึกษาการใช้จ่ายหรือการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ ที่จะช่วยประหยัดเวลาและช่วยลดค่าธรรมเนียมในการชำระบิลต่าง ๆ ค่าธรรมเนียมที่เรามองว่าแค่ไม่กี่บาท แต่หากต้องจ่ายหลายบิลในแต่ละเดือน เมื่อคิดรวม ๆ แล้ว ก็กลายเป็นเงินหลักร้อยได้เหมือนกัน ดังนั้นหากเราศึกษาวิธีการใช้แอพพลิเคชั่นด้านการเงินที่หลากหลาย ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดการค่าใช้จ่ายของเรา และทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้น
เพราะเราไม่รู้ว่าสถานการณ์นี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน การใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ในตอนนี้ จึงควรวางแผนให้ดี อย่าปล่อยให้ตัวเองใช้เงินแบบเดือนชนเดือน การปรับเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้เราเอาชีวิตรอดได้ในยามวิกฤติเช่นนี้ คือการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายของเราอย่างจริงจัง เพราะอย่างน้อยๆ หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น เราก็ยังจะพอมีเงินก้อนสำรองเอาไว้บ้าง
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : https://money.kapook.com/ , https://www.thaihealth.or.th/ , https://www.nsf.or.th/
เรียบเรียง : Thai Credit Micro Economic Development