เพราะไม่มีอะไรแน่นอน "เงินออมฉุกเฉินจึงสำคัญ"
เราทุกคนอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” ซึ่งคำนี้สามารถเอาไปใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตของเรา รวมถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ของเราด้วย ถ้าหากลองเปรียบกับชีวิตของเราทุกคน ในช่วงเวลาของเราบางครั้ง จะหยิบจับค้าขายอะไรก็จะเป็นเงินเป็นทองไปหมดทุกอย่างหรือที่เรียกกันว่า ช่วงขาขึ้นของชีวิต แต่เมื่อผ่านไปได้ไม่นานบางอย่างอาจพลิกผันทำให้เราต้องพบเจอกับความผิดหวังทำอะไรก็ล้มเหลวไปหมดทุกอย่าง เช่นเดียวกับสภาวะเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันก็เช่นกัน ย่อมมีวงจรที่มีทั้งขึ้นและลง
วันนี้เราจึงมีวิธีการวางแผนสำรองการเงินมาฝากกัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตของเรา ที่เราเรียกกันว่า “เงินออมฉุกเฉิน”
จากข่าวการถูกเลิกจ้างแบบไม่ทันได้ตั้งตัวของพนักงานหลายบริษัททำให้เรารู้ว่า การมีเงินสำรองในยามฉุกเฉินนั้นสำคัญมากๆ เพราะเป็นแหล่งเงินที่ทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น สามารถเอามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ในช่วงที่กำลังลำบาก แต่อาชีพของเราควรต้องมีเงินออมฉุกเฉินเท่าไหร่ และควรเก็บเงินออมฉุกเฉินไว้ที่ไหนอย่างไรบ้าง เพราะแต่ละอาชีพมีความมั่งคงแตกต่างกัน ทำให้จำนวนเงินออมฉุกเฉินอาจจะเก็บออมไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น
การเก็บเงินออมฉุกเฉินเราควรมีแผนในการเก็บ และควรเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยมีความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องสูง สามารถเบิกถอนได้ตลอดเวลาในยามที่จำเป็นต้องใช้เงิน การเก็บควรแบ่งเก็บไว้มากกว่า 1 แหล่ง เช่น เปิดบัญชีแบบออมทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยสูง เพื่อสะดวกต่อการเบิกถอน และส่วนที่ 2 อาจจะเก็บไว้กับกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) กองทุนรวมตลาดเงินมีความเสี่ยงต่ำสุด คือ อยู่ระดับที่ 1 ทำให้เงินต้นค่อนข้างปลอดภัย สภาพคล่องสูง (แต่น้อยกว่าเงินฝากออมทรัพย์) ขายกองทุนวันนี้ได้รับเงินวันรุ่งขึ้น ถ้าจะใช้เงินก็ต้องวางแผนการถอนให้ดีเพราะถ้าติดวันหยุดก็จะได้รับเงินช้าออกไปอีกนิดหน่อย แต่ก็เหมาะสมสำหรับการออมเงินฉุกเฉินในระดับที่ไม่เร่งด่วนมาก
“ถึงตอนนี้เราคงรู้แล้วว่าควรเก็บเงินออมฉุกเฉินเท่าไหร่และควรเก็บไว้ที่ไหนกันบ้าง และสิ่งที่สำคัญคือ เราคิดวางแผนอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องลงมือทำทันทีและถ้าหากเราถอนเงินฉุกเฉินมาใช้แล้ว ก็ควรนำกลับไปเติมไว้ให้เต็มตลอดเวลาด้วย”
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก https://aommoney.com